ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง กรุงเทพมหานคร หลายคนน่าจะเคยแวะเวียนกันไปอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อใกล้เข้าเทศกาลปีใหม่ ศาลหลักเมือง จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เพราะหลายคนมักคิดว่าเมื่อเข้าปีใหม่ ขึ้นศักราชใหม่ เราต้องทำสิ่งดีๆ เพื่อเปิดดวง เปิดชีวิตของเราในปีใหม่วันใหม่ นั่นเอง แต่จริงๆ แล้วในปัจจุบัน หลายคนไม่รอให้ถึงปีใหม่ ก็แวะเวียนไปไหว้ศาลหลักเมืองกันเป็นประจำ ในบางรายหนึ่งเดือนครั้ง 2 เดือนครั้งเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง เพราะการไปไหว้ ศาลหลักเมือง มีความเชื่อว่าเพื่อเสริมสิริมงคล ต่อชะตาอายุ ใครตกอายุที่เคราะห์ จะได้หายเจ็บหายป่วย ไร้โรคภัยไข้เจ็บ มีความสุข ความเจริญนั่นเอง
ความเชื่อศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
“อิน จัน มั่น คง” นั้นเป็นพื้นฐานของความเชื่อในการสร้างหลักเมืองในประเทศไทย โดยผ่านการประกอบพิธีที่ 4 ประตูเมือง โดยมีการกำหนดให้นำคนที่มีชื่อว่า อิน / จัน / มั่น / คง มาฝังลงในหลุม เพราะด้วยความเชื่อที่ว่าทั้ง 4 คน เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะไม่ไปไหน แต่จะคอยคุ้มครองรักษาปกปักรักษาบ้านเมือง จากศัตรู และสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ สำหรับลักษณะของคนทั้ง 4 ตามที่โหรกำหนดไว้ ก็คือ ไม่ใช่นักโทษประหาร ไม่สักยันต์ ไม่เจาะหู และมีเวลาตกฟากตามที่กำหนด
ศาลหลักเมือง นั้นเป็นสถานที่สักการะ ซึ่งได้ถูกตั้งขึ้นเพื่อทำการสักการะเสาหลักเมือง โดยความสำคัญของเสาหลักเมืองนั้น ตั้งแต่โบราณมีความเชื่อมากันตั้งแต่ในอดีต ซึ่งมีความเชื่อศาลหลักเมืองทำให้บ้านเมืองมีความร่มเย็นเป็นสุข เพราะว่าเสาหลักเมืองนั้นจะเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคอยปกป้องคุ้มครองเมืองนั้น ๆ เพราะฉะนั้นการตั้งเสาหลักเมืองจึงเป็นไปตามความเชื่อและสิริมงคลแก่บ้านเมืองต่าง ๆ ที่ได้สร้างขึ้นมา ทำให้นอกจากกรุงเทพฯ แล้วในจังหวัดอื่น ๆ ของประเทศไทยก็ต่างมีศาลหลักเมืองด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในเมืองนั้น
สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อไหว้ศาลหลักเมือง
- ธูป 3 ดอก
- เทียน 1 เล่ม
- ทองคำเปลว
- ดอกบัว 2 ดอก
- ผ้าแพร 3 สี
- พวงมาลัย 2 พวง
จะอย่างไรก็ดีเมื่อไปถึงศาลหลักเมืองแล้ว หากเราไม่ได้เตรียมของไปเอง ที่บริเวณศาลหลักเมืองนั้นจะมีจุดจำหน่ายของที่ใช้กราบไหว้สักการะในราคาย่อมเยาเอาไว้ให้
วิธีการไหว้ศาลหลักเมืองที่ถูกต้อง
1. จุดแรกคือไหว้ที่ “หอพระพุทธรูป”
2. จุดถัดมาเป็น องค์หลักเมืองจำลอง โดยให้จุดธูปเทียน (ในปัจจุบันไม่จุดธูปเทียนกันแล้ว) สามารถนำมาวางและกล่าวคำบูชาองค์พระหลักเมืองตามบทสวดดังต่อไปนี้ได้เลย
“ศรีโรเม เทพเทวานัง พระหลักเมือง เทวานัง พระภูมิ เทวานัง ทีปะธูปะ จะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปะพยัญชนะ สัมปันนัง สารีนัง อุททะกัง วะรัง เตปิ ตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขะเยนะ สุเขนะจะ”
เมื่อกล่าวคำบูชาจนเสร็จสิ้นแล้วให้เราทำการขอพร หลังจากนั้นเดินปิดทอง และผูกผ้าแพรที่เสาหลักเมืองจำลองหลักที่อยู่ด้านหน้า ตรงจุดใดก็ได้
3. หลังจากนั้นเดินเข้าไปไหว้องค์หลักเมืองจริงที่อยู่ทางด้านใน โดยให้เรากล่าวคำบูชา “องค์หลักเมือง” ด้วยบทสวดเดียวกันกับที่กล่าวบูชา “องค์หลักเมืองจำลอง” เมื่อกล่าวบทสวดจนจบแล้วให้เราขอพร ขอความสุข ความสงบร่มเย็น ใครที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ก็ให้ขอพรให้หายเจ็บ หายป่วย ใครที่ติดขัดเรื่องใดอยู่ ให้ตังจิตอธิษฐานบอกตามจริง และถวายพวงมาลัยแก่องค์หลักเมือง
4. เมื่อไหว้หลักเมืององค์จริงเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบกลับ ให้เดินออกมาไหว้หอเทพารักษ์ทั้ง 5 กันต่อเสียก่อน หอเทพารักษ์ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพารักษ์ที่คอยปกป้องบ้านเมือง ได้แก่ พระเสื้อเมือง / พระทรงเมือง / เจ้าเจตคุปต์ / พระกาฬไชยศรี และเจ้าหอกลอง
5. จุดสุดท้ายให้เดินถัดมาจากหอเทพารักษ์อีกสักนิด เพื่อทำการเติมน้ำมันตะเกียง ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนการสุดท้ายในการไหว้ศาลหลักเมืองแบบครบทั้ง 5 ขั้นตอน
ปัจจุบัน “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” จึงกลายเป็นที่ชุมนุมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมากราบไหว้และบนบานต่างๆนานา เพื่อขอให้สมปรารถนาในเรื่องที่หวัง และตั้งใจ โดยเฉพาะในวนหยุด เสาร์-อาทิตย์ ทั่วบริเวณศาลหลักเมืองและใกล้เคียงจะเนืองแน่นไปด้วยจำนวนผู้คนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มุ่งเดินทางกันมากราบไหว้ ศาลหลักเมือง กันอย่างล้นหลามตั้งแต่เช้าจดเย็น