วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวไหว้พระ ทำบุญให้อิ่มอกอิ่มกันไปถ้วนหน้ากันกับ 5 วัดดังนครปฐม ที่สามารถไปได้แบบเช้า-เย็นกลับ แถมยังอยู่ใกล้ กรุงเทพ เพื่อสิริมงคลให้แก่ตนเองและคนในครอบครัวอีกด้วย บอกเลยว่าคราวนี้สายบุญทุกท่านนอกจากจะได้บุญกันแล้ว ท่านยังได้ชิล และถ่ายรูปสวยๆ ของสถาปัตยกรรม และประติมากรรมอันงดงาม ที่มีความอ่อนช้อย ต่างๆ ภายในวัดนครปฐมที่เรากำลังจะพาไปทัวร์ได้อีกด้วยครับ
วัดดังนครปฐม ไหว้พระ 5 วัดใกล้กรุงเทพ
1. วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร
แน่นอนว่า ถ้าพูดถึง วัดสวย นครปฐม แล้ว ต้องนึกถึง พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เป็นแห่งแรกค่ะ ที่นี่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของจังหวัดนครปฐม ไม่ว่าใครที่แวะมานครปฐม หากไม่มาแวะเที่ยวพระปฐมเจดีย์ เรียกได้ว่ายังมาไม่ถึงนครปฐมเลยทีเดียว พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ทรงลังกา แบบสุโขทัย ที่มีความเก่าแก่และสวยงามมากๆ ซึ่งเป็นการสร้างครอบเจดีย์เดิม 2 องค์ คือ เจดีย์ทรงสถูปสาญจีตามแบบอินเดียยุคพระเจ้าอโศกมหาราช และเจดีย์ทรงขอมโบราณในช่วงรัชสมัยของ รัชกาลที่ 4 นั่นเอง
ถือได้ว่า องค์พระปฐมเจดีย์ แห่งนี้ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6 ค่ะ และในทุกๆ ปีทางวัดก็จะจัด งานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวมเป็นเวลากว่า 9 วัน 9 คืน เลย ที่จะเปิดให้ประชาชนได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมความงดงามขององค์พระปฐมเจดีย์นี้กันได้ทั้งวันทั้งคืนอีกด้วย
2. วัดไผ่ล้อม
นั้นตั้งอยู่ในตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม ได้มีการก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยทำการเกณฑ์ชาวมอญมาช่วยกันบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งชาวมอญเหล่านี้ได้ตั้งที่พักอาศัยอยู่บริเวณสวนป่าไผ่ ใกล้กับองค์พระปฐมเจดีย์ จึงคาดว่าน่าจะเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ ต่อมาได้มีพระภิกษุมาปักกลดเพื่อทำการบำเพ็ญมรณธรรม เนื่องจากบริเวณนี้มีความเงียบสงบไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย ชาวบ้านจึงช่วยกันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ และได้อาราธนาพระภิกษุจากวัดพระปฐมเจดีย์มาจำพรรษา
โดยที่วัดแห่งนี้ได้ขาดเจ้าอาวาสมาอยู่เป็นเวลานาน จวบจนกระทั่ง พ.ศ. 2486 ทางคณะสงฆ์จึงได้ทำการแต่งตั้งให้ พระอาจารย์พูล อตตรกโข นั้นขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ แม้ในปัจจุบันท่านได้ละสังขารไปแล้วก็ตาม แต่ท่านได้สร้างปาฏิหาริย์เอาไว้ ด้วยสรีระของท่านยังคงสภาพเดิมที่ไม่เน่าไม่เปื่อย ทางวัดจึงนำร่างท่านบรรจุโลงแก้วตั้งไว้ที่ศาลากรุวิมานุสรณ์ ให้ลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้
3. วัดไร่ขิง พระอารามหลวง
เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน บริเวณตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน โดยวัดแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดมงคลจินดาราม (ไร่ขิง)” แต่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันเต็ม ๆ ว่า “วัดมงคลจินดารามไร่ขิง” จนกระทั่งปัจจุบันเหลือแต่ชื่อ “วัดไร่ขิง” อีกทั้งยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าถูกก่อสร้างขึ้นเมื่อใด แต่อาศัยจากคำบอกเล่าต่อๆกันมาว่า ถูกก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2394 ในสมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา หลังจากที่สร้างวัดจนเสร็จได้ทำการอัญเชิญพระพุทธรูปมาจากวัดศาลาปูน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาตั้งประดิษฐานไว้เป็นพระประธานของวัด ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยแบบประยุกต์ หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้ว สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น เบื้องหน้าผ้าทิพย์ปูทอดลงมา ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ
4. วัดกลางบางแก้ว
ถือว่าเป็นวัดโบราณที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีนมาเนิ่นนาน โดยแต่เดิมมีชื่อว่า “วัดคงคาราม” โดยวัดนั้นตั้งอยู่ที่ตำบลนครชัยศรี อำเภอนครชัยศรี ภายในมีอุโบสถ พระวิหาร รวมถึงพระประธานเก่าแก่ ซึ่งทางนักโบราณคดีได้สันนิษฐานกันว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก ที่ได้เก็บรักษาโบราณวัตถุและศิลปะวัตถุล้ำค่าต่าง ๆ รวมไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาสทั้ง 2 รูป ซึ่งก็คือ หลวงปู่บุญ (บุญ ขันธโชติ) ซึ่งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ตอนปี พ.ศ. 2429 จนถึง 2478 และหลวงปู่เพิ่ม (เพิ่ม ปุญญวสโน) ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บุญและได้รับสืบตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดต่อมานั่นเอง
5. วัดศีรษะทอง
วัดศรีษะทอง เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ตั้งอยู่ที่อำเภอนครชัยศรี ได้รับความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลาวที่ได้อพยพมาจากเวียงจันทน์ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ช่วยกันก่อสร้างขึ้นมา ในขณะที่มีการขุดดินสำหรับสร้างวัดได้พบเศียรพระทองจมอยู่ในดิน จึงถือเป็นนิมิตที่ดี เลยได้ตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดหัวทอง” ต่อมาทางการได้ขุดคลองเจดีย์บูชา แยกจากแม่น้ำนครชัยศรี ไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ คลองนี้ผ่านพื้นที่ทางตอนใต้ของวัดหัวทองและหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงอพยพมาอยู่ใกล้คลองเพราะสะดวกในการคมนาคม วัดนี้จึงย้ายจากที่เดิมมาอยู่ใกล้คลองเจดีย์บูชาและเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศีรษะทอง”
ใครที่สนใจก็สามารถเดินทางไปได้ที่จังหวัดนครปฐม แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าบริเวณใกล้เคียงของวัดต่าง ๆ ยังมีย่านของกินเด็ด ๆ ให้ไปลิ้มรสกันอีกด้วย เรียกว่าอิ่มบุญ อิ่มใจ สบายท้องกันถ้วนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นการปิดทริป ไหว้พระวัดดังนครปฐมใน 1 วัน และภายในจังหวัดนครปฐมนั้นยังมีวัดสวย วัดดังที่น่าเที่ยวอยู่ด้วยกันอีกหลายวัด เอาไว้รอบหน้า วัดสวยนครปฐม จะมาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับสายบุญกันต่อครับ
